การออกแบบเว็บไซต์ ให้เหมาะสมกับธุรกิจ

การออกแบบเว็บไซต์ ให้เหมาะสมกับธุรกิจ

หลักการ ออกแบบเว็บไซต์ ให้เหมาะสมกับธุรกิจ รวมถึงโครงสร้างต่างๆ ของเว็บไซต์

เริ่มจาก ข้อมูลพื้นฐาน เรื่ององค์ประกอบ รูปแบบ ข้อความ และ รูปภาพ ในการ ออกแบบเว็บไซต์

1 รูปแบบโครงสร้างของการ ออกแบบเว็บไซต์

เว็บที่มีโครงสร้างแบบเรียงลำดับ (Sequential Structure)

โครงสร้างแบบปกติ โครงสร้างไม่ซับซ้อน ง่ายต่อการจัดการกับข้อมูลในเว็บไซต์ ใช้กับเว็บไซต์ขนาดเล็ก ข้อมูลไม่มากนัก โดยเนื้อหาจะลิ้งไปทีละหน้า คลิกลิ้งไปหน้าต่อๆไป และมีปุ่มคลิกถอยหลังกลับไปหน้าเดิม แต่โดยโครงสร้างแบบนี้จะไม่สามารถแบ่งหมวดหมู่หัวข้อได้ และทำให้ผู้ใช้เว็บไซต์ ต้องมานั่งคลิกทีละหน้า จนกว่าจะเจอเนื้อหาที่ต้องการ

เว็บที่มีโครงสร้างแบบลำดับขั้น (Hierarchical Structure)

โครงสร้างที่ใช้กับเว็บไซต์ที่มีหลายหัวข้อเมนู มีความสลับซับซ้อน ต้องมีการแบ่งหัวข้อออกเป็นหัวข้อย่อย เพื่อเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้ง่ายขึ้น โดยจะเริ่มจากหน้าแรก ที่เรียกกับว่า HOME จากนั้น จะแบ่งหัวข้อตามรายละเอียดที่เว็บไซต์ใช้งาน เช่น เกี่ยวกับเรา สินค้า ติดต่อเรา เป็นต้น
และมีการแยกหัวข้อย่อย เช่น สินค้า แยกเป็น สินค้า A , สินค้า B , สินค้า C เพื่อให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์เข้าถึงข้อมูลได้โดยตรง

เว็บที่มีโครงสร้างแบบตาราง (Grid Structure)

โครงสร้างที่มีความสลับซับซ้อน สามารถลิ้งไปหน้าเพจอื่นที่เกี่ยวข้องในเนื้อหา ก่อนหน้า หรือ ถัดๆไปได้ อีกทั้งเนื้อหาในแต่ละส่วนจะเชื่อมโยงถึงกัน เช่น หน้าข่าวสาร เวลาอ่านข่าวสาร จะมีข่าวสารก่อนหน้า และ ถัดไป แสดงให้เห็นเพื่ออ่านต่อ

เว็บที่มีโครงสร้างแบบใยแมงมุม (Web Structure)

โครงสร้างใยแมงมุม เป็นโครงสร้างที่ได้รับความนิยม ในทุกหน้าเพจจะเชื่อมโยงถึงกัน เหมาะกับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาจำนวนมาก และมีหัวข้อต่างๆจำนวนมาก หรือนำมาใช้เขียนบล๊อคข่าวสารต่างๆ ได้อย่างลงตัว ในโครงสร้างใยแมงมุมนั้น สามารถใส่ลิ้ง ทั้งภายใน (Internal link) และ ลิ้งภายนอก (External link) เป็นการเชื่อมโยงได้ทุกทิศทาง

2 รูปแบบการ ออกแบบเว็บไซต์

เว็บไซต์ในปัจจุบัน จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท


1. เว็บไซต์ธุรกิจ หรือองค์กร ต่างๆ
ในส่วนเว็บไซต์ธุรกิจ การสร้างเว็บไซต์ก็เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับธุรกิจนั้นๆ ให้มีความน่าเชื่อถือ และภายในเว็บไซต์ จะมีประวัติบริษัท เพื่อให้ทราบถึงเรื่องราวการเป็นมา
รางวัล ใบการันตี ต่างๆ ให้ทราบถึงความสัมพันธ์ทางการค้าของบริษัทนั้นๆ และยังส่วนอื่นๆ เช่น โปรเจค ข่าวสาร ความรู้ รับสมัครงาน ลูกค้า และอื่นๆ เพื่อสร้างน่าเชื่อถือให้กับองค์กร หรือเป็นแพลตฟอร์มในการพรีเซนหรือนำเสนองานต่างๆ ได้ง่าย


2. เว็บไซต์ขายสินค้า
ในส่วนเว็บไซต์ขายสินค้า ส่วนมากจะเป็น E-commerce เป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะขายสินค้า หรือบริการ จะเห็นได้ว่า การเข้าซื้อสินค้า จะแบ่งเป็นหมวดหมู่
เข้าถึงและเข้าใจการใช้เว็บไซต์ได้ง่าย หาสินค้าง่าย ใช้งาน ซื้อง่าย ไม่ซับซ้อน รวมถึง มีข่าวสาร กิจกรรม โปรโมชั่นต่างๆ ให้ลูกค้าได้เห็นชัดเจน
บางเว็บไซต์มีระบบหยิบใส่ตระกร้า มีราคา รายละเอียด ต่างๆที่ชัดเจน ปัจจุบัน เว็บไซต์ E-commerce เป็นที่นิยม เพราะ มีสินค้าหลากหลาย ไม่ต้องเดินทางไปซื้อให้เสียเวลา
มีการเก็บเงินปลายทาง การเคลมสินค้า ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจมากขึ้น

ข้อมูลต่างๆที่นำมาใช้ ออกแบบเว็บไซต์

ข้อมูล ธุรกิจ หรือองค์กร
ข้อมูล สินค้าและบริการ
ข้อมูล การติดต่อบริษัท ที่อยู่ เบอร์โทร , อีเมล , เว็บไซต์ , แผนที่ , หมุด gogole map
ข้อมูล ข่าวสาร โปรเจค บทความ
ข้อมูล โซเชียล Facebook , Line , Instagram , Youtube

ส่วนประกอบสำคัญของเว็บไซต์

1 ส่วนด้านบนของเว็บไซต์ (Header)
จะเป็นส่วนแถบด้านบนเว็บไซต์ ประกอบด้วย
LOGO – ควรมีขนาดที่เหมาะสมในการมองเห็น
MENU – แถบเมนูหัวข้อต่างๆ ของเว็บไซต์ วางและจัดหมวดหมู่ให้ใช้งานได้ง่าย
LINK SOCIAL – ไอคอนลิ้งโซเชียลต่างๆ เพื่อความสะดวกของผู้ใช้งาน
2. ส่วนเนื้อหา (BODY)
จะเป็นส่วนของกลางเว็บไซต์ประกอบด้วย
SLIDE – ภาพสไลของเว็บไซต์ ภาพสไลควรสื่อถึงธุรกิจตั้งแต่ภาพแรก เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจได้ง่าย
ไม่ควรใส่สไลมากจนเกินไป และภาพไม่ควรสไลไวเกินไป
BODY – ส่วนเนื้อหาของเว็บไซต์ ควรกระชับ และเข้าใจได้ง่าย ใส่เพียงเล็กน้อย แล้วทำลิ้ง ไปหัวข้อหลักแทน
เช่น เกี่ยวกับเรา สินค้าและบริการ โปรเจค ลูกค้า ข่าวสาร เป็นต้น
3. ส่วนล่างสุดของเว็บไซต์ (Footer)
จะเป็นส่วนล่างสุดของเว็บไซต์ ประกอบด้วย
LOGO – โลโก้และรายละเอียดเกี่ยวกับเรา
LINK – อาจมีลิ้งหัวข้อย่อยๆ ให้กับผู้ใช้งาน
UP Button – ปุ่มเลื่อนขึ้นไปด้านบน เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเยอะ จะได้กลับไปที่เมนูด้านบนสุดได้อย่างรวดเร็ว

สีสำหรับการออกแบบเว็บไซต์

สีมีความสำคัญในการสร้างเว็บไซต์ เนื่องจากสีเป็นตัวกำหนดอารมณ์ ความรู้สึกของมนุษย์ และเป็นเป้าสายตาในการอ่านเนื้อหาอีกด้วย
สีแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
สีโทนร้อน (Warm Colors) ประกอบด้วย สีเหลือง สีส้มเหลือง สีส้ม สีส้มแดง สีม่วงแดงและสีม่วง เป็นสีที่มีความเด่นชัด
เพราะส่วนมากพื้นหลังของเว็บไซต์จะเป็นสีขาว สีโทนร้อนจะสะดุดตา กว่าสีดำ ( อารมณ์เหมือนไฟแดงสัญญาณจราจร ) ส่วนมากใช้สีดำ เพื่อเขียนข้อความปกติ
สีโทนเย็น (Cool Colors) ประกอบด้วย สีเหลือง สีเขียว สีน้ำเงิน สีม่วง สีที่ดูสบายตา
สีโทนมืด (Black & Gray Colors) ประกอบด้วย สีดำ เทา น้ำตาล สีเหล่านี้จะเหมาะกับธุรกิจ ก่อสร้าง ตกแต่งภายใน ออกแบบต่างๆ ดูแล้วมีเสน่ห์
(อารมณ์เหมือนงานลอฟท์ งาน ศิลปะ)